เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น Korea Electric Power Corp. (KEPCO) จึงประกาศผลประกอบการที่แย่ที่สุดสำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่ KEPCO กำลังวางแผนที่จะฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ทางการเงินโดยการชำระสินทรัพย์ที่เป็นไปได้เพื่อประกันเงิน

คาดว่าบริษัทไฟฟ้าที่รัฐดำเนินการอาจทำให้ค่าไฟฟ้าของประชาชนเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของ KEPCO เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทขาดทุนจากการดำเนินงาน 7.78 ล้านล้านวอน (6.06 พันล้านดอลลาร์)

ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลประกอบการรายไตรมาสที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ การสูญเสียรายไตรมาสยังเกินกว่าการสูญเสียทั้งหมด 5.9 ล้านล้านวอนในปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นการสูญเสียประจำปีที่สูงเป็นประวัติการณ์ ผลที่ได้คือผลประกอบการที่น่าตกใจ เนื่องจากมันเหนือกว่ามติของตลาดที่ขาดทุน 5.7 ล้านล้านวอนมากกว่า 2 ล้านล้านวอน

ในขณะที่รายรับรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 16.4 ล้านล้านวอน ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ต้นทุนเชื้อเพลิงในช่วงสามเดือนแรกก็เพิ่มขึ้นเป็น 7.64 ล้านล้านวอน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 92.8%

เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจาก 3.68 ล้านล้านวอนในไตรมาสแรกของปีที่แล้วส่งผลให้บริษัทไฟฟ้าของรัฐขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากบริษัทยังคงขายไฟฟ้าในราคาเดิมต่อไปแม้ว่าค่าน้ำมันจะแพงขึ้นสองเท่าก็ตาม ข้อกำหนดที่กำหนดให้ KEPCO

ซื้อเชื้อเพลิง 12.5% ​​จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีราคาแพงกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบเดิม ก็มีส่วนทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน

เนื่องจากราคาพลังงานทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ในระดับสูงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและสภาวะมหภาคที่ไม่เอื้ออำนวย แรงกดดันกำลังสร้างให้ KEPCO ขึ้นราคาปัจจุบัน KEPCO

ได้ออกพันธบัตรมูลค่า 15.6 ล้านล้านวอนเพื่อใช้เป็นสภาพคล่อง ซึ่งมากกว่า 11.7 ล้านล้านวอนในปีที่แล้วมาก “บริษัทวางแผนที่จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ เราจะหารืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเกี่ยวกับทางเลือกในการสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นในค่าไฟฟ้าอย่างสมเหตุสมผล” เจ้าหน้าที่จาก KEPCO กล่าว

อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ johnranard.com อัพเดตทุกสัปดาห์